ประโยชน์ของแตงโม ประโยชน์สุขภาพและความสดชื่นที่คุณควรรู้

แตงโม Watermelon เป็นผลไม้ที่มีลักษณะเป็นลูกกลมหรือรีบโดยส่วนใหญ่มีเปลือกสีเขียวและเนื้อภายในมีสีแดงส้มหรือชมพู แต่ก็มีแบบพันธุ์ที่มีเนื้อสีขาวหรือเหลืองอ่อนด้วย แตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำมากและหวานซึ่งทำให้เป็นอาหารหลักในช่วงฤดูร้อน ซึ่งช่วงนี้มักจะรับประทานเป็นวิธีให้ความชุ่มชื่นและสดชื่น แตงโมเนื้อในอุณหภูมิห้องสามารถบริโภคเป็นดิบ หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ และอาหารหลากหลายชนิด เช่น แตงโมรวมพริกไทย แตงโมสลัด และเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการทำน้ำแตงโม และขนมหวานต่างๆ โดยมักจะรับประทานเมื่อเย็นหรือในช่วงที่ร้อนและอบอ้าว

ลักษณะทางกายภาพของแตงโม

1. เปลือก เปลือกของแตงโมมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม มีลวดลายเล็กๆ ที่เรียกว่าลายแตงโม แต่ละเส้นจะขยายขนาดเมื่อผลแตงโมโตขึ้น ในบางพันธุ์ยังมีเปลือกที่เป็นสีเหลือง ขาว หรือฟ้าเข้มอีกด้วย

2. ขนาด ขนาดของแตงโมสามารถแตกต่างกันไปตามพันธุ์และเงื่อนไขการปลูก แต่ทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่โดยเฉลี่ยหรือมีน้ำหนักประมาณ 4-10 กิโลกรัมต่อลูก

3. เนื้อ เนื้อของแตงโมมีสีแดงส้มหรือชมพู หรือสีขาวหรือเหลืองสำหรับพันธุ์บางชนิด มีเนื้อน้ำหวาน ส่วนมากจะมีเมล็ดที่แบ่งตามช่องในเนื้อ แต่พบบางพันธุ์ที่มีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเมล็ดเลย Seedless Watermelon

4. รสชาติ เนื้อแตงโมมีรสหวานอ่อนถึงหวานจัด และมีความสดชื่น น้ำแตงโมมีรสหวาน กรอบ และสดชื่น

5. เมล็ด แตงโมมีเมล็ดภายในเนื้อ แต่มีพันธุ์ที่เรียกว่า Seedless Watermelon ที่มีเมล็ดน้อยมากหรือไม่มีเมล็ดเลย

6. ลักษณะภายนอก ลักษณะภายนอกของแตงโมมีรูปทรงกลมโดยทั่วไป มีการปากด้านหนึ่งเมื่อเราดูจากด้านบน เมื่อผ่าเปิดจะเห็นเนื้อแตงโมสีสวยงาม

7. ส่วนประกอบอื่นๆ แตงโมประกอบด้วยน้ำมัน และสารอาหารต่างๆ เช่นวิตามิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

แตงโมเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานเป็นอาหารดิบหรือใช้ทำเครื่องดื่มเย็นได้ มีรสชาติสดชื่นและคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อนและมีประโยชน์ต่อการบำรุงสุขภาพด้วยความเป็นแหล่งวิตามินและน้ำตาลธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในตัวเอง

ประโยชน์ของแตงโม

แตงโมมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและความเป็นอิ่มอร่อยของคนที่รับประทาน นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญ

1. ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ แตงโมมีน้ำมาก ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื่นและช่วยเสริมระบบการทำงานของร่างกาย เนื้อแตงโมยังมีวิตามินและเครื่องต้นสำหรับการสร้างผิวหนังและเซลล์ร่างกายอื่นๆ

2. ช่วยลดความร้อนในร่างกาย เนื่องจากมีน้ำมาก การบริโภคแตงโมช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นในฤดูร้อน

3.มีสารต้านอนุมูลอิสระ แตงโมมีวิตามิน C และวิตามิน A ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และโรคต่างๆ

4.ส่งเสริมการขับถ่าย เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก การรับประทานแตงโมอาจช่วยในกระบวนการขับถ่ายและล้างสารพิษออกจากร่างกาย

5.ระบบต่างๆ ในร่างกาย แตงโมมีความหลากหลายของวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามิน A C แคลเซียม และโพแทสเซียม ที่สามารถส่งเสริมให้ระบบประสาท กล้ามเนื้อ และระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

6. ช่วยลดการอักเสบ วิตามิน C และลิคโอพีนท์ที่พบในแตงโมมีคุณสมบัติในการช่วยลดอักเสบและรักษาการอักเสบเล็กน้อย

7. เป็นแหล่งพลังงาน แตงโมมีน้ำตาลธรรมชาติที่มาจากน้ำและเปลือก ช่วยเติมพลังงานให้ร่างกายในช่วงฤดูร้อน

8. รักษาการเสียดสีปาก น้ำแตงโมสามารถช่วยลดอาการเสียดสีปากหรือแผลในปากที่เกิดจากการเสียดสี ด้วยคุณสมบัติการช่วยบำรุงเนื้อเยื่อและสร้างเซลล์ใหม่

9. การดูแลตา แตงโมมีวิตามิน A ที่สามารถส่งเสริมสุขภาพตาและสายตาให้แข็งแรง

10. รับประทานง่าย แตงโมเป็นผลไม้ที่เข้าถึงง่าย สามารถรับประทานเป็นอาหารดิบ หรือสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ หรืออาหารหลากหลายชนิดได้

โดยรวมแล้ว แตงโมมีประโยชน์ทางโภชนาการและสุขภาพที่หลากหลายและเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการบริโภคในช่วงฤดูร้อนและในทุกๆ วันก็ได้เช่นกัน

แตงโมประกอบไปด้วยสารอะไรบ้าง

แตงโมประกอบไปด้วยหลายสารอาหารและสารสำคัญที่มีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้

1. น้ำ แตงโมมีปริมาณน้ำสูงมาก ประมาณ 90-92เปอร์เซ็นต์ ทำให้เป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงความชุ่มชื่นและลดความกระหายน้ำในร่างกาย

2. คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานหลักของแตงโม ช่วยเติมพลังงานให้ร่างกาย

3. วิตามิน C มีปริมาณวิตามิน C ที่มากภายในแตงโม ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ รักษาเนื้อเยื่อ และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

4. วิตามิน A เป็นสารอาหารที่สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพตา รักษาผิวพรรณ และระบบภูมิคุ้มกัน

5. ลิคโอพีนท์ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและลดความอักเสบ

6. โพแทสเซียม เป็นแร่ธาตุที่ช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกายและรักษาระดับน้ำในเซลล์

7. แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับสร้างและบำรุงกระดูกและฟัน

8. แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทในการรักษาระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ และระบบการทำงานของหัวใจ

9. โพแทสเซียม เป็นอีกแร่ธาตุหนึ่งที่มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของระบบประสาทและรักษาความดันโลหิตปกติ

10. วิตามิน B6 เป็นวิตามินที่มีบทบาทในกระบวนการสร้างและปรับปรุงเซลล์ในร่างกาย

11. วิตามิน B1 ทิเอมิน ช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเพื่อการผลิตพลังงาน

12. กรดไฮดรอกซีไอด์ ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร

13. สารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากการตกของอนุมูลอิสระ

14. ไฟโบแทนอยด์ เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการสร้างพลังงานในเซลล์

แตงโมมีกี่ประเภท

มีหลายประเภทของแตงโมที่มีลักษณะและสีเนื้อที่แตกต่างกัน นี่คือหลายประเภทที่พบมากที่สุด

1. Common Watermelon ประเภทนี้มีเปลือกสีเขียวและเนื้อสีแดงหรือส้ม ซึ่งเป็นแบบพันธุ์แตงโมที่มีความนิยมและสามารถพบได้ง่ายในท้องตลาดตลอดปี

2. Sugar Baby Watermelon มีขนาดเล็กกว่าแตงโมพันธุ์ทั่วไป มักมีเนื้อสีแดงหรือส้มและเปลือกสีเขียวเข้ม มีรสชาติหวาน และนิยมเป็นอาหารรวมพริกไทยหรืออาหารกลางวัน

3. Organic Watermelon แตงโมที่ปลูกด้วยวิธีอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีหรือปุ๋ยเคมีในกระบวนการปลูก

4. Snowball Watermelon มีเนื้อสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มักมีขนาดเล็กและมีลักษณะคล้ายกับสโลว์บอล มีรสชาติหวานอ่อนและนิยมใช้ในการทำขนมหวาน

5. Egg-Shaped Watermelon มีลักษณะรูปทรงคล้ายไข่ มักมีขนาดเล็กกว่าแตงโมพันธุ์ทั่วไป มีเนื้อสีแดงและเปลือกสีเขียว

6. Watermelon Saladette มีขนาดเล็กและเป็นรูปกลม มักนำมาใช้ทำสลัดและอาหารต่างๆ

7. Crimson Sweet Watermelon มีเนื้อสีแดงและเมล็ดเป็นสีดำ มีรสหวานจัดและนิยมเป็นแตงโมที่รับประทานในช่วงฤดูร้อน

8. Seedless Watermelon แตงโมประเภทนี้มีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเมล็ดเลย มีรสหวาน และเปลือกสีเขียวหรือสีเหลือง

9. Triploid Watermelon เป็นแบบพันธุ์ของแตงโมไร้เมล็ดที่มีเมล็ดใหญ่ มักมีขนาดใหญ่และเหมาะแก่การทำเป็นเครื่องดื่มหรือเสิร์ฟในพิธีพิเศษ

10. Yellow Watermelon เนื้อสีเหลืองหรือส้ม มีรสหวานและนิยมเป็นผลไม้สดชื่นในฤดูร้อน

ข้อควรระวังในการรับประทานแตงโม

1.เลือกแตงโมสุก เลือกแตงโมที่มีผิวไม่บุบสลาย สีสันสดใส และมีเสียงกลวงเมื่อเคาะ แตงโมสุกมีแนวโน้มที่จะอร่อยและปลอดภัยที่จะกิน

2.ควบคุม ขนาดส่วนแม้ว่าแตงโมจะมีแคลอรีต่ำ แต่สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมขนาดส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังดูปริมาณน้ำตาลหรือควบคุมน้ำหนักของคุณ

3.ดูปฏิกิริยาการแพ้ ระวังอาการแพ้หลังจากบริโภคแตงโม อาการแพ้อาจแสดงอาการคัน บวม หรือหายใจลำบาก หากคุณพบอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์

4.ระวังเปลือก เปลือกของแตงโมจะเหนียวและย่อยยาก หลีกเลี่ยงการกินเปลือกในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สบายได้

5.การกลั่นกรอง สำหรับโรคเบาหวานแม้ว่าแตงโมจะมีน้ำตาลตามธรรมชาติ แต่ก็ยังสามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ที่เป็นเบาหวานควรติดตามการบริโภคและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหากจำเป็น

6.หลีกเลี่ยง การรวมกับอาหารที่มีน้ำตาลสูงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น หลีกเลี่ยงการบริโภคแตงโมพร้อมกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

7.เก็บอย่างถูกต้อง เก็บแตงโมหั่นไว้ในตู้เย็นเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย บริโภคภายในสองสามวันเพื่อรักษาความสด

8.หลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป การกินแตงโมมากเกินไปในคราวเดียวอาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สบายเนื่องจากมีปริมาณน้ำสูง บริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

9.ปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี ล้างแตงโมให้สะอาดก่อนตัดเพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนจากผิวด้านนอก

แตงโมเป็นผลไม้ร้อนชื่นที่มีประโยชน์มาก มีปริมาณน้ำสูงช่วยบำรุงความชุ่มชื่นและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน มีวิตามิน C และ A ช่วยรักษาสุขภาพตาและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและสารอาหารสำคัญอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แตงโมเหมาะสำหรับบรรเทาความร้อนในฤดูร้อน และมีหลายวิธีการบริโภค เช่น นำมาทานสดหรือทำน้ำแตงโม ทำให้เป็นผลไม้ที่แอบควรใส่เข้าสู่เมนูอาหารและเครื่องดื่มของเราทุกวัน

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแตงโม

• 1.แตงโมมีความหวานอย่างไร?
  • แตงโมมีรสหวานธรรมชาติจากน้ำตาลที่เรียกว่า วาเลน ความหวานมาจากคาร์โบไฮเดรต
• 2.แตงโมสามารถทานในฤดูร้อนอย่างไร?
  • แตงโมเป็นผลไม้ที่เชื่อมโยงกับฤดูร้อน มีความสดชื่นและเป็นการบรรเทาความร้อนในร่างกาย
• 3.แตงโมสามารถเลือกทานในระหว่างการควบคุมน้ำหนักได้หรือไม่?
  • แตงโมมีพลังงานสูง ควรระมัดระวังในการบริโภคในปริมาณมากเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องน้ำหนักเกินไป
• 4.เมล็ดแตงโมสามารถบริโภคได้หรือไม่?
  • มีประเภทแตงโมไร้เมล็ดและมีเมล็ด แต่เมล็ดแตงโมสามารถทานได้และสามารถนำมาใช้ทำอาหารได้
• 5.แตงโมมีความเหมาะสมต่อผู้ที่มีโรคเบาหวานไหม?
  • แตงโมมีน้ำตาลธรรมชาติ แต่ปกติแล้วมีการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมไม่นาน แต่ควรปรึกษาแพทย์

บทความที่น่าสนใจ :ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมะเขือเทศ คุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพที่ดี